การเพาะขยายพันธ์ุปลาเลียหิน(ปลากลมมอญ)

เรื่องทั่วไปของปลาเลียหิน

ชื่อท้องถิ่น: ปลามัน
ชื่ออังกฤษ: Stone-lapping fish หรือ Stonelapping minnow
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ceratogarra cambodgiensis (Tirant, 1884)

ลักษณะสำคัญ:
มีหนวด 1 คู่บริเวณร่องด้านข้างปาก ริมฝีปากด้านล่างแผ่ออกเป็นแผ่นค่อนข้างกลมเพื่อยึดติดกับวัสดุใต้น้ำ มีเกล็ดบนเส้นข้างลำตัวจำนวน 32-35 เกล็ด มีแถบดำยาวตามแนวด้านหลังและแถบดำตามยาวด้านข้างลำตัวจนถึงฐานครีบหาง ซึ่งมีความกว้างเท่ากับจำนวนแถวของเกล็ด 2 แถว ครีบหลังมีแถบดำ 2 แถบ และขอบครีบหางมีสีดำปนแดง

ขนาด:
มีขนาดความยาวได้ถึง 15 เซนติเมตร

การกระจายพันธุ์:
พบในลุ่มแม่น้ำโขง ครอบคลุมพื้นที่มณฑลยูนนานของจีน ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำต่างๆ ในคาบสมุทรมลายู สำหรับในจังหวัดน่าน พบว่าปลาเลียหินมีการกระจายพันธุ์ในทุกลำน้ำของจังหวัด ทั้งในลำห้วย แม่น้ำน่าน และแม่น้ำสาขาทุกสาย

แหล่งอาศัย:
อาศัยอยู่ตามลำธารบนภูเขาสูง พื้นท้องน้ำเป็นก้อนหินเล็กไปจนถึงโขดหินขนาดใหญ่ กระแสน้ำไหลค่อนข้างเชี่ยว (1-2 เมตร/วินาที) ความลึกของน้ำไม่เกิน 1 เมตร อุณหภูมิน้ำเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส และมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในรอบวันน้อย ปลาเลียหินมักเกาะตามหินใต้น้ำเพื่อดูดกินตะไคร่น้ำที่เกาะติดตามก้อนหิน รวมถึงแพลงก์ตอนพืช ตัวอ่อนของแมลง และสัตว์หน้าดินเป็นอาหาร

สถานการณ์ถูกคุกคาม:
โอกาสถูกคุกคามมีน้อย (Least Concern, LC)

การเพาะพันธุ์ปลาเลียหิน

1. การรวบรวมพ่อแม่พันธุ์
รวบรวมจากแหล่งน้ำธรรมชาติด้วยตาข่ายเฉพาะหรือจากบ่อเลี้ยงโดยใช้สวิงเนื้อละเอียด ควรรวบรวมช่วงพฤษภาคมถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นฤดูผสมพันธุ์

2. การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์
เพศผู้มีลำตัวเรียวยาวขนาดเล็กกว่าตัวเมีย ช่องเพศเป็นวงรีและมีสีขาวขุ่นเมื่อสัมผัส
เพศเมียมีลำตัวอ้วนป้อมท้องอูม ช่องเพศเป็นวงกลมสีชมพู
อัตราส่วนที่แนะนำคือสองต่อหนึ่งหรือสามต่อสองของเพศผู้ต่อเพศเมียเพื่อให้ไข่ผสมติดดี

3. การชั่งน้ำหนักและพักพ่อแม่พันธุ์
ชั่งน้ำหนักแยกเพศและบันทึกข้อมูลเพื่อนำไปคำนวณปริมาณฮอร์โมนที่ต้องใช้
พักปลาแยกเพศในกะละมังที่มีระบบออกซิเจนตลอดเวลาและไม่ควรเกินห้าสิบตัวต่อกะละมัง

4. การเตรียมบ่อเพาะพันธุ์
ใช้บ่อไฟเบอร์กลาสบ่อซีเมนต์หรือภาชนะดัดแปลงที่มีพื้นเรียบ ระบบน้ำต้องสะอาดและหมุนเวียนดีโดยใช้ระบบน้ำล้นท่อ ทำความสะอาดบ่อด้วยน้ำยาล้างจานและด่างทับทิม ติดตั้งระบบอากาศและน้ำเพื่อควบคุมออกซิเจนและไหลเวียนน้ำ เติมน้ำสะอาดให้มีระดับประมาณสามสิบถึงสี่สิบเซนติเมตรก่อนเริ่มเพาะพันธุ์

5. การเตรียมฮอร์โมนสำหรับฉีด
ใช้ฮอร์โมน Buserelin acetate หรือ Suprefact ฉีดกระตุ้น
การเจือจางฮอร์โมนทำโดยนำหนึ่งมิลลิลิตรผสมกับน้ำกลั่นเก้ามิลลิลิตรเพื่อให้ได้ความเข้มข้นหนึ่งพันไมโครกรัมต่อสิบมิลลิลิตร ปริมาณฮอร์โมนที่แนะนำคือสิบห้าไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัวปลาหนึ่งกิโลกรัม

6. การฉีดฮอร์โมน
ใช้เข็มขนาด 26Gx1/2 นิ้วฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณฐานครีบหลัง หลังฉีดให้นำปลาลงบ่อเพาะทันที

7. การผสมพันธุ์
ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงบ่อตามอัตราที่กำหนด แม่ปลาจะวางไข่ประมาณแปดพันถึงหนึ่งหมื่นสองพันฟองต่อตัวและเกิดการปฏิสนธิในน้ำ ระบบน้ำและออกซิเจนที่เหมาะสมช่วยให้ไข่มีอัตราการฟักสูงและเพิ่มโอกาสการเพาะพันธุ์สำเร็จในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้

การอนุบาลลูกปลาเลียหิน

1. การเตรียมบ่ออนุบาล

  • สัปดาห์แรก (0-7 วัน): อนุบาลในบ่อเพาะฟัก, ทำความสะอาดบ่อเบื้องต้น
  • ตั้งแต่อายุ 8 วันขึ้นไป: ย้ายไปบ่อซีเมนต์ที่ใหญ่ขึ้น
    • ขั้นตอนเตรียมบ่อ:
      1. ล้างบ่อด้วยน้ำยาล้างจาน ปล่อยให้แห้ง 1 วัน
      2. เติมน้ำที่พักไว้ 30-40 ซม.
      3. วางระบบเติมอากาศ และเตรียมระบบระบายน้ำ

2. การย้ายลูกปลา

  • หลังอนุบาลในบ่อเพาะฟัก 7 วัน: ย้ายไปบ่อใหญ่
  • วิธีย้าย:
    • ใช้สวิงช้อนลูกปลาลงกะละมัง
    • ค่อยๆ ปล่อยลงบ่อใหม่ช่วงเช้า

3. อาหารและการให้อาหาร

  • อายุ 0-2 วัน: ยังไม่ต้องให้อาหาร (ใช้ไข่แดงสำรองในตัว)
  • อายุ 3-7 วัน: ให้ไข่แดงต้มสุก (บดละเอียดผสมน้ำ) วันละ 2 มื้อ
  • อายุ 8-15 วัน: ให้รำละเอียดผสมปลาป่น (1:1) วันละ 2 มื้อ
  • อายุ 16-40 วัน: ให้เม็ดอาหารสำเร็จรูปโปรตีน ≥32% (ปั้นเป็นก้อน)

4. การจัดการบ่ออนุบาล

  • อายุ 3-7 วัน: เช็ดทำความสะอาดบ่อ ดูดตะกอน เปลี่ยนน้ำ 30% ทุกวัน
  • อายุ 8-15 วัน: ดูดตะกอนทุกวัน เปลี่ยนน้ำ 50% ทุก 2 วัน
  • อายุ 16-40 วัน: ดูดตะกอนทุก 2 วัน เปลี่ยนน้ำ 50% ทุก 4-5 วัน

5. โรคที่พบบ่อยและการรักษา

  • โรคตัวคดงอ:
    • สาเหตุ: ฮอร์โมนสังเคราะห์เข้มข้นเกินไป / ขาดสารอาหาร
    • วิธีแก้: ห้ามใช้ฮอร์โมนเข้มข้นเกิน 30 ไมโครกรัม/กก., ให้วิตามินซี 1 กรัม/กก. อาหาร
  • โรคจุดขาว:
    • สาเหตุ: อุณหภูมิน้ำสูงเกิน 27°C
    • วิธีรักษา: แช่ฟอร์มาลีน 25-50 มก./ลิตร หลีกเลี่ยงอุณหภูมิเปลี่ยนฉับพลัน
  • โรคท้องบวม:
    • สาเหตุ: อาหารไม่ย่อย (โดยเฉพาะไข่แดง)
    • วิธีแก้: งดอาหาร ดูดตะกอน เปิดน้ำไหลผ่าน 24 ชม.

6. การเติบโตและการปล่อยลูกปลา

  • อายุ 40 วัน: ลูกปลาสมบูรณ์พร้อมปล่อยแหล่งน้ำธรรมชาติ
  • อายุ 14 วัน: สามารถปล่อยได้ แต่โอกาสรอดต่ำกว่า
  • การเลี้ยงในบ่อปิด: โตช้ากว่าในธรรมชาติประมาณ 20%

โอกาสการสร้างเป็นปลาเศรษฐกิจ

การศึกษาการเลี้ยงปลาเลียหินในบ่อซีเมนต์

   จากการศึกษาพบว่า ปลาที่เลี้ยงในบ่อที่ไม่มีการปล่อยน้ำไหลผ่านตลอดเวลา แต่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกๆ 2 วัน มีอัตราการเจริญเติบโตช้ากว่าปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติประมาณ 20-30% เมื่อเลี้ยงครบ 1 ปี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปลาที่เลี้ยงในบ่อที่มีน้ำไหลผ่านตลอด พบว่ามีอัตราการเจริญเติบโตใกล้เคียงกับปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ

   นอกจากนี้ หากมีการเลี้ยงบนพื้นที่สูงได้ก็จะยิ่งดี เนื่องจากหมู่บ้านบนพื้นที่สูงใช้น้ำเพื่อการอุปโภคที่มาจาก ระบบประปาภูเขา ซึ่งคุณภาพน้ำมีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลาเลียหินอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาข้อมูลจากการเลี้ยงเบื้องต้น พบว่าการเลี้ยงปลาเลียหินในเชิงพาณิชย์ในจังหวัด น่าน นั้น มีศักยภาพสูง และมีโอกาสประสบผลสำเร็จได้มาก หากสามารถเลี้ยงในพื้นที่ที่ นำน้ำจากธรรมชาติมาใช้ได้โดยตรง

ประโยชน์ของการเลี้ยงปลาเลียหินในเชิงพาณิชย์

หากสามารถเลี้ยงปลาเลียหินเชิงพาณิชย์ได้จริง จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนในหลายๆ ด้าน เช่น
1.การใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่า จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น
2.การสร้างอาชีพและรายได้ ให้กับคนในชุมชน
3.ลดการจับปลาจากธรรมชาติ ทำให้ปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติยังคงมีอยู่
4. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชน